ปลูกผักกินใบในแต่ละฤดู

ปลูกผักกินใบในแต่ละฤดู2

• ผักกินใบคืออะไร

ผักกินใบเป็นกลุ่มผักที่บริโภคส่วนของใบเป็นหลัก เช่น คะน้า ผักกาด กะหล่ำปลี ผักโขม ผักบุ้ง เป็นต้น ผักกลุ่มนี้มักมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น เจริญเติบโตเร็ว และเป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย

• ปลูกผักตรงตามฤดูมีผลต่อการเจริญเติบโตของผักอย่างไร

ผักแต่ละชนิดมีความต้องการสภาพอากาศ อุณหภูมิ และปริมาณน้ำฝนที่แตกต่างกัน การปลูกในฤดูที่เหมาะสมจะทำให้ผักได้รับปัจจัยเหล่านี้อย่างพอเพียงโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีหรือการจัดการที่ซับซ้อนมากนัก ทำให้ผักเจริญเติบโตได้เต็มที่ มีความสมบูรณ์ทั้งรูปร่าง สีสัน รสชาติ และ มีคุณค่าทางอาหารสูง

การบริโภคผักควรทานหลากหลาย มีปรเภทผักสวนครัวมีมากมาย ทั้งแบบใบ ดอก ผล เหง้า หัว เลือกทานให้เหมาะสม เพื่อให้ได้สารอาหารครบ รวมทั้ง ทานผักหลากสี

• ผักกินใบมีอะไรบ้าง

🌞ผักกินใบที่ควรปลูกในฤดูร้อน

กระถิน

  • อายุ: เก็บกินได้นานหลายปี
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดเต็มวัน น้ำปานกลาง ดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดี
  • โรคและแมลง: หนอนเจาะยอด
  • สารชีวภัณฑ์: เชื้อบีที, น้ำหมักสมุนไพร

คะน้า

  • ฤดูปลูก: ร้อน และ ฝน
  • ระยะปลูก: 25–35 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดจัดตลอดวัน รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ให้ดินชุ่มแต่ไม่แฉะ ใช้ดินร่วนหรือร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดีและอุดมด้วยอินทรียวัตถุ
  • โรคและแมลง: หนอนใยผัก, เพลี้ยอ่อน
  • สารชีวภัณฑ์: ใช้เชื้อบีทีป้องกันหนอน และน้ำหมักสะเดาป้องกันเพลี้ย
shop เมล็ดพันธุ์

บัวบก

  • อายุ: เก็บกินต่อเนื่องได้หลายเดือนถึงปี
  • การดูแล: แสงแดดครึ่งวันหรือรำไร รดน้ำบ่อยให้ดินชื้น ดินเหนียวหรือดินร่วนที่เก็บความชื้นได้ดี
  • โรคและแมลง: เพลี้ยอ่อน, ราแป้ง
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักขิง, น้ำหมักข่า
shop เมล็ดพันธุ์

ผักบุ้งจีน

  • ฤดูปลูก: ร้อน และ ฝน
  • ระยะปลูก: 25–30 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดเต็มวัน รดน้ำวันละ 1–2 ครั้ง ดินควรมีความชื้นสม่ำเสมอ เลือกใช้ดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี
  • โรคและแมลง: หนอนกัดใบ
  • สารชีวภัณฑ์: เชื้อบีที, น้ำหมักสมุนไพร

อ่านเพิ่ม🌱3 ชนิดผักบุ้งที่นิยมทานในไทย

แมงลัก

  • ฤดูปลูก: ร้อน และ ฝน
  • ระยะปลูก: 30–40 วัน
  • การดูแล: แสงแดดเต็มวัน รดน้ำทุกวันให้ดินชุ่ม ดินควรเป็นดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี
  • โรคและแมลง: เพลี้ยไฟ, เพลี้ยอ่อน
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา, น้ำข่า

อ่านเพิ่ม📌ใบแมงลักผักสมุนไพรมากสรรพคุณ

โหระพา

  • ระยะปลูก: 30–40 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดจัด รดน้ำสม่ำเสมอแต่ไม่แฉะ ดินร่วนซุยหรือร่วนปนทราย อุดมด้วยอินทรียวัตถุ
  • โรคและแมลง: เพลี้ยไฟ
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา

อ่านเพิ่ม📌โหระพาสมุนไพรในครัว

🌧️ผักกินใบที่ควรปลูกในฤดูฝน

กะเพรา

  • ระยะปลูก: 35–45 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดจัด รดน้ำวันละ 1 ครั้งในวันที่ฝนไม่ตก (ระวังน้ำขังในหน้าฝน) ดินควรเป็นดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดี
  • โรคและแมลง: เพลี้ยไฟ, หนอนเจาะลำต้น
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา, เชื้อบีที

อ่านเพิ่ม📌ใบกะเพราราชินีสมุนไพร

ชะพลู

  • อายุ: หลายปี
  • การดูแล: ชอบแสงแดดรำไร ดินควรชื้นสม่ำเสมอ ใช้ดินร่วนหรือดินเหนียวที่ระบายน้ำดี รดน้ำวันเว้นวัน
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, เชื้อรา
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสมุนไพร, ไตรโคเดอร์มา

ผักกาดหอม

  • ระยะปลูก: 30–45 วัน
  • การดูแล: ชอบแสงแดดรำไรถึงครึ่งวัน รดน้ำเมื่อฝนไม่ตก ดินควรเป็นดินร่วนซุยที่โปร่ง ไม่อุ้มน้ำมาก
  • โรคและแมลง: เชื้อราในดิน, หนอนกัดใบ
  • สารชีวภัณฑ์: ไตรโคเดอร์มา, เชื้อบีที

อ่านเพิ่ม📌รวมวิธีปลูกผักสลัดให้งาม

ผักบุ้งนา

  • ระยะปลูก: 30–35 วัน
  • การดูแล: แสงแดดครึ่งวันถึงเต็มวัน รดน้ำเมื่อฝนไม่ตก ดินควรเป็นดินเหนียวหรือดินร่วนที่เก็บความชื้นได้ดี
  • โรคและแมลง: เพลี้ยอ่อน
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา

อ่านเพิ่ม🌱3 ชนิดผักบุ้งที่นิยมทานในไทย

ผักโขม

  • ระยะปลูก: 25–30 วัน
  • การดูแล: ชอบแสงแดดครึ่งวัน รดน้ำเมื่อจำเป็น ดินควรเป็นดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดีและมีอินทรียวัตถุสูง
  • โรคและแมลง: เพลี้ยไฟ, รา
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา, ไตรโคเดอร์มา
shop เมล็ดพันธุ์

ผักชี

  • ฤดูปลูก: ปลายฝนต้นหนาว
  • ระยะปลูก: 30–40 วัน
  • การดูแล: ชอบแสงแดดรำไร รดน้ำสม่ำเสมอแต่ไม่ให้ดินแฉะ ดินควรเป็นดินร่วนซุยหรือดินปนทรายที่ระบายน้ำดี
  • โรคและแมลง: ราน้ำค้าง, เพลี้ย
  • สารชีวภัณฑ์: ไตรโคเดอร์มา, น้ำหมักขิง

อ่านเพิ่ม📌เคล็ดลับการปลูกผักชีให้มีทานประจำ

ผักร็อกเก็ต

  • ระยะปลูก: 30–40 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดครึ่งวัน รดน้ำอย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีฝน ดินควรเป็นดินร่วนซุยหรือดินเบา
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, หนอน
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา, เชื้อบีที

อ่านเพิ่ม📌ผักร็อกเก็ตปลูกได้ทุกฤดู

ผักวอร์เตอร์เครส

  • ระยะปลูก: 30–40 วัน
  • การดูแล: ชอบแดดรำไรถึงแดดเช้า ต้องการน้ำมาก เหมาะปลูกในพื้นที่ชื้นหรือปลูกในน้ำตื้น ดินควรเป็นดินเหนียวปนร่วน
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, ราน้ำค้าง
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักตะไคร้, ไตรโคเดอร์มา
shop เมล็ดพันธุ์

❄️ผักกินใบที่ควรปลูกในฤดูหนาว

กะหล่ำดาว

  • ระยะปลูก: 80–100 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดจัดตลอดวัน รดน้ำสม่ำเสมอแต่ไม่ให้แฉะ ดินควรเป็นดินร่วนซุยหรือดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดีและเย็น
  • โรคและแมลง: หนอน, เชื้อรา
  • สารชีวภัณฑ์: เชื้อบีที, ไตรโคเดอร์มา

กะหล่ำปลี

  • ระยะปลูก: 60–75 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดเต็มวัน รดน้ำวันละครั้ง ดินควรเป็นดินร่วนซุยที่เย็นและอุดมด้วยอินทรียวัตถุ
  • โรคและแมลง: หนอนใยผัก, ราน้ำค้าง
  • สารชีวภัณฑ์: เชื้อบีที, ไตรโคเดอร์มา

กะหล่ำปลีม่วง

  • ระยะปลูก: 60–80 วัน
  • การดูแล: แสงแดดเต็มวัน รดน้ำสม่ำเสมอ ดินร่วนซุยอุดมด้วยปุ๋ยหมัก และควรปลูกในที่อากาศเย็น
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, หนอน
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา, เชื้อบีที

ขึ้นฉ่าย

  • ระยะปลูก: 50–60 วัน
  • การดูแล: ชอบแสงแดดรำไรถึงครึ่งวัน ดินควรมีความชื้นสูง รดน้ำวันละ 1–2 ครั้ง ดินร่วนหรือร่วนเหนียวที่มีอินทรียวัตถุสูง
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, ราน้ำค้าง
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักขิง, น้ำหมักสะเดา, ไตรโคเดอร์มา

ต้นหอม

  • ฤดูปลูก: ฝน และ หนาว
  • ระยะปลูก: 60–90 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดครึ่งวันถึงเต็มวัน รดน้ำวันละครั้ง ดินควรเป็นดินเบาหรือดินร่วนปนทราย
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, รา
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักข่า, ไตรโคเดอร์มา

ปวยเล้ง

  • ระยะปลูก: 30–40 วัน
  • การดูแล: แสงแดดครึ่งวันหรือแดดอ่อนตอนเช้า ดินควรชุ่มแต่ไม่แฉะ ใช้ดินร่วนซุยเย็น มีอินทรียวัตถุสูง
  • โรคและแมลง: เพลี้ย
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา

ผักกาดขาว

  • ระยะปลูก: 30–40 วัน
  • การดูแล: แสงแดดประมาณครึ่งวันถึงเต็มวัน รดน้ำสม่ำเสมอให้ดินชุ่ม ดินควรเป็นดินร่วนซุยหรือร่วนปนทราย
  • โรคและแมลง: หนอนกระทู้, เพลี้ยอ่อน
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา, น้ำหมักขิงแก่

ผักกาดแก้ว

  • ระยะปลูก: 35–45 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดครึ่งวัน รดน้ำให้พอชุ่ม ดินควรเป็นดินร่วนซุย ระบายอากาศดี ไม่อุ้มน้ำ
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, รา
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักข่า, ไตรโคเดอร์มา

ผักชีฝรั่ง

  • ระยะปลูก: 40–50 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดครึ่งวัน ดินควรชื้นสม่ำเสมอ ใช้ดินร่วนที่อุดมด้วยอินทรียวัตถุ
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, เชื้อรา
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสมุนไพร, ไตรโคเดอร์มา

อ่านเพิ่ม📌ปลูกผักชีฝรั่งให้กินยาวสำหรับมือใหม่

ผักเคล

  • ระยะปลูก: 45–60 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดจัด รดน้ำวันละครั้งให้ดินชุ่มแต่ไม่แฉะ ดินควรเป็นดินร่วนซุยที่มีอินทรียวัตถุสูง
  • โรคและแมลง: หนอน, เพลี้ย
  • สารชีวภัณฑ์: เชื้อบีที, น้ำหมักสะเดา

ผักสลัด

  • ระยะปลูก: 35–45 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดครึ่งวัน รดน้ำให้ดินชุ่มแต่ไม่แฉะ ใช้ดินร่วนซุยอุดมด้วยปุ๋ยหมัก
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, เชื้อรา
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักตะไคร้, ไตรโคเดอร์มา

ผักสวิสชาร์ท

  • ระยะปลูก: 40–55 วัน
  • การดูแล: ชอบแดดครึ่งวันถึงเต็มวัน รดน้ำวันละครั้ง ดินควรเป็นดินร่วนซุยอุดมด้วยปุ๋ยหมักและมีการระบายน้ำดี
  • โรคและแมลง: หนอน, เพลี้ย
  • สารชีวภัณฑ์: เชื้อบีที, น้ำหมักสมุนไพร

อ่านเพิ่ม📌10 ผักกินใบซุปเปอร์ฟู้ดเพื่อสุขภาพ

ผักกวางตุ้ง

  • ระยะปลูก: 25–30 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดจัด รดน้ำเช้า–เย็นในช่วงแรก ดินควรเป็นดินร่วนซุยหรือดินปนทราย
  • โรคและแมลง: หนอน, เพลี้ย
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสะเดา, เชื้อบีที

ผักกาดหงส์

  • ระยะปลูก: 45–60 วัน
  • การดูแล: ชอบแสงแดดจัด ดินร่วนปนทราย ระบายอากาศดี รดน้ำวันละครั้ง
  • โรคและแมลง: เพลี้ยไฟ, หนอน
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักขิง, เชื้อบีที

ผักชีลาว

  • ระยะปลูก: 30–40 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดครึ่งวัน ดินร่วนซุย ชื้นแต่ไม่แฉะ
  • โรคและแมลง: เพลี้ย
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักสมุนไพร

อ่านเพิ่ม📌ผักชีลาวผักพื้นบ้านมากคุณค่า

ผักยี่หร่า

  • ระยะปลูก: 50–60 วัน
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดเต็มวัน รดน้ำปานกลาง ดินร่วนปนทราย
  • โรคและแมลง: เพลี้ย
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักขิง

ผักกุยช่าย

  • อายุ: 2–3 ปี
  • การดูแล: ต้องการแสงแดดครึ่งวัน ดินควรเป็นดินร่วนที่ระบายน้ำดีและชุ่มชื้น รดน้ำวันเว้นวัน
  • โรคและแมลง: หนอน, เพลี้ย
  • สารชีวภัณฑ์: เชื้อบีที, น้ำหมักสะเดา

สะระแหน่

  • อายุ: หลายเดือนถึง 1 ปี
  • การดูแล: ชอบแสงแดดรำไรถึงครึ่งวัน รดน้ำให้ดินชุ่ม ดินควรเป็นดินร่วนหรือร่วนปนทราย
  • โรคและแมลง: เพลี้ย, รา
  • สารชีวภัณฑ์: น้ำหมักข่า, ไตรโคเดอร์มา

อ่านเพิ่ม📌เคล็ดลับปลูกสะระแหน่ให้งาม 

ผักกินใบต้องการสารอาหารแบบไหน?

ปุ๋ยไนโตรเจนสูง

ผักกินใบต้องการธาตุอาหารหลักคือ ไนโตรเจน (N) สูง เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ทำให้ใบเขียวสด แข็งแรง และแตกยอดได้ดี ดังนั้นการบำรุงแบบธรรมชาติไร้สารเคมี

ปุ๋ยมูลสัตวที่มีค่าไนโตเจน(N)สูง (เรียงจากมากไปน้อย)

มูลค้างคาว

ปริมาณ N โดยเฉลี่ย(% โดยน้ำหนักแห้ง)  6–8%

เร่งโตไวมาก, ใบใหญ่, แตกยอดดี

shop

มูลไก่

ปริมาณ N โดยเฉลี่ย(% โดยน้ำหนักแห้ง)  2–3%

เร่งใบเร็ว ใบดกเขียวเข้ม

shop

มูลแพะ / แกะ

ปริมาณ N โดยเฉลี่ย(% โดยน้ำหนักแห้ง)  2-3%

บำรุงใบ บำรุงดิน โปร่งฟู

shop

มูลหมู

ปริมาณ N โดยเฉลี่ย(% โดยน้ำหนักแห้ง)  2-2.5%

ไนโตรเจนดี กลิ่นแรง ต้องหมักก่อน ลดกลิ่น–เชื้อโรค

shop

📌วิธีใช้

  • ปริมาณ: ปุ๋ยคอกแห้ง 200–500 กรัม/ตารางเมตร ทุก 10–15 วัน 
  • หมักน้ำใช้รด: มูลสัตว์ 1 ส่วน + น้ำ 10 ส่วน + กากน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ หมักไว้ 7–10 วันแล้วรดพืช (1:20)
  • ❌ไม่ควรใช้สด: โดยเฉพาะ มูลไก่ ควรหมักก่อนเพื่อป้องกันการร้อนราก

📌เคล็ดลับ

  • ใช้ร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ เช่น ฮอร์โมนไข่ หรือ EM จะช่วยเร่งการดูดซึมและลดกลิ่น
  • ใช้ในช่วง หลังปลูก 7 วัน ก่อนเก็บเกี่ยว 7 วัน จะช่วยให้พืชใบโตเร็ว ใบดกเขียวไม่แข็งกระด้าง

Anndagarden ฝากกด like เพจด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดบทความดีๆจากเรา

สินค้าที่น่าสนใจ

บทความที่น่าสนใจ

บทความอื่นๆเพิ่มเติม▶️

ปลูกผักกินใบในแต่ละฤดู

🌱ปลูกผักกินใบใน...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

ดอกบานชื่นเป็นดอกไม้มงคลทานได้

ดอกบานชื่น มีคว...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

ฟักทองพันธุ์ต่างๆและวิธีปลูก

ฟักทองยอดนิยมพั...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

ปลูกแวววิเชียรให้ออกดอกทั้งปี

การบำรุงแวววิเช...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

เทคนิคการปลูกแววมยุราอย่างมืออาชีพ

เคล็ดลับการปลูก...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

จิงจูฉ่ายมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

ผักใบเขียวปลูกง...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

ปลูกช็อกโกแลตมิ้นต์ กลิ่นเย้ายวนหอมเย็น

ปลูกช็อกโกแลตมิ...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️