แหล่งกำเนิดผักชีไทย
- ชื่อสามัญ : Coriander
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Coriandrum sativa Linn.
- ชื่ออื่น : ภาคกลางเรียกว่า ผักชี ภาคเหนือเรียกว่า ผักหอมป้อม ผักหอม ผอม ภาคอีสานเรียกว่า ผักหอมน้อย นครพนมเรียกว่า ผักหอม
- ถิ่นกำเนิด : ประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
นอกจากนี้แล้ว ผักชีในไทยยังมีอีกหลายชนิด 👉4ชนิดผักชีที่นิยมใช้ในครัว
ลักษณะทางพฤษกศาสตร์ของผักชี
ผักชีเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง ภายในกลวง และมีกิ่งก้านที่เล็ก
ใบ
ใบติดกับลำต้นแบบสลับ ก้านใบยาว ใบประกอบด้วยใบย่อยเป็นจำนวนมาก ขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน บางครั้งใบย่อยเป็นรูปเกือบกลม ขอบใบหยักเป็นฟันปลา บางครั้งเป็นฝอยละเอียด
ราก
มีรากสั้นแต่รากฝอยมีมาก รากมีกลิ่นหอม นิยมนำรากมาดับกลิ่นคาวในอาหาร
ดอก
ดอกออกรวมกันเป็น ช่อใหญ่ที่ปลายยอดหรือชอกก้านใบ ดอกย่อยสีขาวหรือขาวอมชมพู
ผล
ผลรีค่อนข้างกลมสีเขียว ผลแก่จัดเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล แตกเป็น 2 ซีก ทุกส่วนของผักชีมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ปลูกผักชีควรปลูกฤดูไหน?2
ปลูกผักชีสามารถปลูกได้ทั้งปี แต่การปลูกในแต่ละฤดูให้ลักษณะผักชีที่ต่างกัน
ฤดูฝน
ต้นแข็งแรง ใหญ่ ใบหนา ทนโรคได้ดี
ฤดูร้อน
อากาศแล้งขาดน้ำ จึงไม่นิยมปลูกผักชี จึงทำให้ผักชีราคาแพง
ฤดูหนาว
ผักชีชอบอาการหนาว เป็นช่วงที่เหมาะที่สุด
การปลูก3
ผักชีเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้นคือประมาณ 40 – 60 วัน ลำต้น ราก ใบ ก้าน ใบ ดอก และเมล็ดมีกลิ่นหอม
เตรียมดิน
- ผักชีเป็นผักที่มีระบบรากตื้นการเตรียมดิน โดยขุดหรือไถพลิกดินลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร
- ตากดินไว้ 5-7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรคและวัชพืชต่างๆ แล้วพรวนย่อยดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้มาก คลุกเคล้าให้เข้ากับดินและปรับหน้าดินให้เสมอ
เตรียมเมล็ดพันธุ์
- นำผลมาบดให้แตกเป็นสองซีก
- แช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง เอาขึ้นมาผึ่งลมให้แห้ง
- เคล้ากับทรายหรือขี้เถ้าทิ้งไว้ จนเมล็ดเริ่มงอกจึงนำไปหว่านในแปลง
หมายเหตุ*การเอาเมล็ดไปผึ่งลมให้แห้ง แล้วเอาไปคลุกกับทราย วิธีนี้ป้องกันเมล็ดพันธุ์จากพวกมด และแมลงอื่นๆ
🛒เมล็ดพันธุ์คลิก▶️
การปลูก
- ก่อนปลูกต้องรดน้ำให้ทั่วแปลง นำเมล็ดที่เตรียมไว้มา หว่านลงบนแปลงปลูกที่ได้เตรียมไว้ กลบด้วยดินละเอียดบางๆ แล้วคลุมด้วยฟาง หรือหญ้าแห้งอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันต้นอ่อนจากแสงแดดและรักษาความชื้นของผิวดิน
- หรือจะปลูกโดยวิธีโรยเป็นแถวบนแปลง ให้แต่ละแถวห่างกัน 20-30 เซนติเมตร แล้วทำการถอนแยกให้เหลือระยะระหว่างต้นประมาณ 10-20 เซนติเมตร หลังจากหว่านเสร็จแล้วต้องรดน้ำให้ชุ่ม
การให้น้ำ
- ผักชีเป็นผักที่ต้องการน้ำมากแต่ไม่ชอบน้ำขัง
- ควรให้ประมาณน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น (อย่าให้น้ำมากจนโชกเกินไป)
- ข้อควรระวังในการปลูกในฤดูฝน: ผักชีถ้าถูกน้ำหรือฝนมากๆ มักจะเน่าง่าย
- สำหรับวัชพืชที่ขึ้นในระยะแรกควรรีบ กำจัดโดยเร็วโดยใช้มือถอน อย่าปล่อยให้ลุกลามเพราะวัชพืชเป็นตัวแย่งน้ำ และอาหารจากผักชี
แสงแดด
- ต้นผักชีที่ไม่ชอบแดดมาก ควรรับแดดในช่วงเช้า ในช่วงหน้าร้อนจัดๆๆ ควรหาสแลนเพื่อทำการบังแดด ไม่ให้โดยแดดจัด
วิธีการดูแลและการบำรุง4
การบำรุงแบบอินทรีย์
- ผักชีเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอทุกวันๆละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น อย่าให้มากจนแฉะเกินไป ในช่วงฤดูฝนอาจลดปริมาณการให้น้ำลงได้
- หมั่นใส่ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมักชีวภาพ ทุก 7 วันครั้ง โรยบางๆให้ทั่วทั้งแปลง พร้อมฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ 1 ช้อน แกง ผสม น้ำเปล่า 10 ลิตร ใส่ตามรอบการใส่ปุ๋ย
- ฉีดพ่นน้ำสกัดสมุนไพรจากสะเดา ป้องกันและกำจัดเพลี้ย ในช่วงระบาด หรือ ฉีดพ่นทุก 5-7 วันครั้ง
การบำรุงแบบอินทรีย์ผสมเคมี
การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกรองพื้นตอนเตรียมดินก่อนปลูก เมื่อผักชีแตกใบแล้ว ถ้าจะเร่งให้งามเร็วก็ใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ประมาณ 15-30 กรัม ผสมน้ำ 1 ปีบ ฉีดพ่นในแปลงให้ทั่ว
การเก็บเกี่ยวผลผลิต
- ผักชีเริ่มเก็บเกี่ยวได้ เมื่อต้นมีอายุประมาณ 30-45 วัน
- ก่อนการเก็บเกี่ยวควรรดน้ำ ภายในแปลงให้ชุ่มเสียก่อน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเก็บเกี่ยว จากนั้นถอนด้วยมือ จับที่บริเวณส่วนโคน ออกแรงดึงขึ้นมาเบาๆพร้อมราก จากนั้นนำไปล้างดินที่ติดอยู่ออก ตัดตกแต่ง ใบเหลือง หรือ ใบเสียออก
- นำไปผึ่งลมให้แห้งเล็กน้อย อย่าให้เปียกแฉะน้ำมากเกินไป อาจทำให้ต้นเน่าเสียเร็วขึ้น
เทคนิคการเก็บต้นผักชีในตู้เย็นให้อยู่ได้นาน
- เด็ดแยกใบอ่อนและก้านแก่พร้อมด้วยราก ล้างและแช่น้ำประมาณ 5 นาที ให้ผักชีสดชื่นขึ้น หลังจากแช่น้ำแล้วนำมาสะเด็ดน้ำในตะกร้า จากนั้นนำกล่อง พลาสติกใส่อาหาร เอาทิชชูอย่างหนาที่ใช้สำหรับในครัวมารองก้นกล่องและนำ ผักชีส่วนใบอ่อนมาเรียงปิดฝา แล้วนำเก็บเข้าตู้เย็น (ชั้นผักหรือชั้นแช่ธรรมดา ก็ได้)
- ส่วนรากผักชีนำใส่กล่องหรือถุงพลาสติกแช่แข็ง หรือถ้าจะให้สะดวกก็นำมาตำกับกระเทียมและพริกไทย ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ลงกล่องเก็บแช่แข็ง
โรคและแมลงศัตรูของผักชี 2
โรคเน่าที่ใบและโคน
วิธีป้องกันได้
- โดยการใช้สารชีวภัณฑ์บาซิลลัส ซับทีลีส(Bacillus subtilis)
- ถ้ามีอาการมากให้ใช้สารเคมีพวก สารแมนโคเซป เช่น ไดเทนเอ็ม 45 ในอัตราตามคำแนะนำที่ฉลาก
โรคใบไหม้
วิธีป้องกันได้
- โดยการใช้สารชีวภัณฑ์บาซิลลัส ซับทีลีส(Bacillus subtilis) ใช้สำหรับป้องกันและกำจัด โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคใบไหม้ โรคใบจุดสีน้ำตาล โรคเมล็ดต่างในไม้ผล ได้แก่ โรครากเน่าโคนน่า ในส่วนของ พืชผักได้แก่ โรคแอนแทรคโนสในพริก ในผักกินใบเช่น คะน้า ได้แก่โรคใบจุดที่เกิดจากเชื้อรา เป็นต้นใช้แบบเคมี ในกรณีที่มีอาการมาก
- ใช้แบบเคมี ในกรณีที่มีอาการมาก กำจัดโดยการฉีดพ่นสารมาเน็บ เช่นไดแทนเอ็ม22, แมนเซทดี , แคปเทน เช่น ออร์ไธไซด์ ในอัตราตามคำแนะนำที่ฉลาก
เพลี้ยระบาดในต้นผักชี
วิธีป้องกันได้
- ใช้สารชีวภัณฑ์เชื้อราบูเวเรีย บัสเซียน่า (Beauveria bassiana) ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีประโยชน์ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชจำพวกปากดูด ใช้ป้องกันและกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน
- ใช้แบบเคมี ในกรณีที่มีอาการมาก สามารถป้องกันกำจัดได้โดยใช้คาร์บาริล เช่น เซฟวิน คาร์โบซัลแฟน เช่น พอสซ์ อัตราตามคำแนะนำที่ฉลากผสมน้ำฉีดให้ทั่วหากจำเป็น
คุณค่าทางอาหารของผักชี
ใบผักชี 100 กรัม ให้พลังงาน 32 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย
- โซเดียม 46 มิลลิกรัม
- คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม
- เส้นใย 3 กรัม
- โปรตีน 2 กรัม
- แคลเซียม 91 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 37 มิลลิกรัม
สรรพคุณของผักชี
- ทั้งต้นช่วยเป็นยาละลายเสมหะ แก้หัดหรือผื่น ขับเหงื่อขับลม ท้องอืดท้อง เพื่อ ด้วยการนำเอาต้นที่แห้งประมาณ 10 – 15 กรัม หรือเอาต้นสดๆ 60 – 150 กรัม นำไปต้มกับน้ำ หรือคั้นเอาเฉพาะน้ำและดื่ม
- ถ้าใช้ภายนอกให้ตำพอก หรือ ดื่มเอาน้ำชะล้าง ผลช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร ทำให้เจริญอาหาร แก้หัด แก้ปิด ริดสีดวงทวาร โดยการนำเอาผลแห้งบดเป็นผงทานหรือต้มกับน้ำ แต่ถ้าใช้ ภายนอกให้เอาไปต้ม นอกจากนี้ยังดับกลิ่นคาวเนื้อ
ข้อควรระวังในการทานผักชี
- อย่าทานมากจนเกินไป เพราะจะทําให้กลิ่นตัวแรงและตาลาย
บทความอื่นๆเพิ่มเติม▶️
ข้อมูลอ้างอิง
- ผัก 333 ชนิด คุณค่าอาหารและการกิน, นิดดา หงษ์วิวัฒน์, ทวีทอง หงส์วิวัฒน์, สุภาพรรณ เยี่ยมชัยภูมิ , สำนักพิมพ์แสงแดด, 2550, หน้า 149
- คู่มือการวางแผน…เพาะปลูกผักฝืนฤดูให้รวย อ.อภิชาติ ศรีสอาด และอัมพา คำวงษา , นาคา อินเตอร์มีเดีย, 2556, หน้า 54-55
- 49 สมุนไพรใกล้ตัว สารพัดรักษาโรค, ณัฎฐา พรอำนาจ , ณ ดา สำนักพิมพ์ , 2537, หน้า 136-140
- คู่มือการเพาะผักอินทรีย์, อ.อภิชาติ ศรีสอาด และ เกรียงไหร ยอดชมภู , นาคา อินเตอร์มีเดีย, 2555, หน้า 68-69
สินค้าที่น่าสนใจ
ต้นโรสแมรี่เลื้อย
ต้นหญ้าหวาน|
69฿Original price was: 69฿.59฿Current price is: 59฿.ต้นเปปเปอร์มินต์ (Peppermint)
ต้นกะเพราแดง
ต้นพริกขี้หนู
ต้นสะระแหน่
ต้นวอเตอร์เครสเขียว
ต้นผักชีฝรั่ง
ต้นจิงจูฉ่าย
ต้นกระชายขาว
ต้นวอเตอร์เครสแดง
เมล็ดพันธุ์กะเพราแดง
เมล็ดพันธุ์โหระพา
เมล็ดผักสลัดบิ๊กเรดโอ๊ค
เมล็ดพันธุ์กะเพราป่า
เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศลูกท้อ
เมล็ดพันธุ์คะน้ายอด
เมล็ดพันธุ์แมงลัก เจียไต๋
เมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาวพันธุ์เนื้อ
เมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม
เมล็ดพันธุ์บวบงูสเน็กกี้
เมล็ดพันธุ์ผักกะหล่ำปลี
ไตรซาน ไตรโคเดอร์มา แอสเพอร์เรียลลัม
สารชีวภัณฑ์เมทาซาน เมทาไรเซียม แอนิโซเพลีย
ชีวภัณฑ์บูเวริน บูเวเรีย บัสเซียน่า
น้ำส้มควันไม้ ทีพีไอ สูตรพรีเมียมโกลด์ ไร้กลิ่น
ไลซินัส พาซิโลมัยซิส ไลลาซินัส
ไลท์นิ่งค์ บาซิลลัส ทูริงเยนซิส
ลาร์มิน่า บาซิลลัส ซับทิลิส
พีสมอส เอสทีมซุปเปอร์พีท (ตรานกเงือก)
บทความที่น่าสนใจ
บทความอื่นๆเพิ่มเติม▶️
ปลูกแวววิเชียรให้ออกดอกทั้งปี
การบำรุงแวววิเช...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
เทคนิคการปลูกแววมยุราอย่างมืออาชีพ
เคล็ดลับการปลูก...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
จิงจูฉ่ายมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ผักใบเขียวปลูกง...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ปลูกช็อกโกแลตมิ้นต์ กลิ่นเย้ายวนหอมเย็น
ปลูกช็อกโกแลตมิ...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
มาร์จอแรมสมุนไพรรสละมุน
มาร์จอแรมเป็นสม...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ดอกเดซี่ ดอกมากาเร็ต และดอกคัตเตอร์(แอสเตอร์)ต่างกันอย่างไร
ดอกไม้ยอดนิยม ข...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ทำไมผักแพงในฤดูฝน?
ควรเลือกทานและป...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ผักร็อกเก็ตปลูกได้ทุกฤดู
ผักร็อกเก็ตดูเห...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️