เผยเคล็ดลับปลูกโรสแมรี่ให้งามสำหรับมือใหม่

การเข้าใจแหล่งกำเนิดและลักษณะความเป็นอยู่ของโรสแมรี่ จะทำให้ง่ายต่อการเลี้ยงโรสแมรี่ให้รอด ¹                 

• โรสแมรี่มีต้นกำเนิดมาจากแถบบริเวณเมดิเตอร์เรเนียน  และมีหลายสายพันธุ์
• ฤดูในเขตเมดิเตอร์เรเนียน มี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และ ฤดูหนาว  ซึ่งจะมีฤดูร้อนจะยาวนานกว่าฤดูหนาว
• อุณหภูมิในเขตเมดิเตอร์เรเนียม เนื่องจากมี 2 ฤดู
  • ฤดูร้อน: อากาศค่อนข้างแห้ง (dry summer) อุณหภูมิประมาณ 10 ถึง 22 องศาเซลเซียส
  • ฤดูหนาว: อากาศจะเย็น และมีความชื้น (wet winter) อุณหภูมิประมาณ -1 ถึง 18 องศาเซลเซียส
• นอกจากนี้แล้วโรสแมรี่เป็นพืชที่ขึ้นตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชอบขึ้นตามโขดหิน ซึ่งเป็นดินทรายที่ระบายน้ำได้ดี

โรสแมรี่เป็นพืชที่ดูแลไม่ยาก เพียงเข้าใจปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อการปลูกต้นโรสแมรี่ จะทำให้ต้นโรสแมรี่เติบโตอย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องดูแลมากมาย

โรสแมรี่ชอบดินที่ระบายน้ำได้ดี เช่นดินร่วนปนทราย เวลาปลูกควรใส่ในอัตราส่วน ดินร่วน: ดินทราย ในอัตรา 1:1 นอกจากนี้ควรใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารในดิน เพื่อให้พืชเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์

ในปัจจุบันมีดินผสมมูลไส้เดือนแบบสำเร็จรูปแบบถุง ซึ่งมีสารอาหารในดินครบถ้วน มีส่วนผสมในดินร่วนและทราย ทำให้การระบายน้ำดีมีการวางจำหน่ายในท้องตลาด สะดวกต่อการใช้งานมาก

ต้นโรสแมรี่ทั้งสายพันธุ์พุ่ม และ สายพันธุ์เลื้อยเป็นพืชที่ชอบแสงแดด อย่างไรก็ตามในแต่ละฤดูกาล ระยะเวลาและปริมาณแสงแดดที่ได้จะแตกต่างกัน เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นในอากาศเป็นปัจจัยสำคัญ

• ในฤดูฝน หรือฤดูหนาว ประเทศไทยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 29-32  และ 25-30 องศาเซลเซียส ตามลำดับ โรสแมรี่ควรได้รับแสงแดดวันละ 6-8 ชั่วโมง
• ส่วนในช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 35-40 องศาเซลเซียส และในช่วงเดือนเมษายน อุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ควรให้ต้นโรสแมรี่รับแสงในช่วงครึ่งวันเช้าเท่านั้นเพราะอากาศค่อนข้างร้อนจัด

เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในเขตศูนย์สูตร ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศค่อนข้างสูง การรดน้ำต้นโรสแมรี่ในฤดูต่างๆ จึงควรให้ปริมาณน้ำที่แตกต่างกัน ขณะที่ต้นโรสแมรี่ชอบอากาศที่ร้อน และแห้ง

ก่อนรดน้ำต้นโรสแมรี่ สามารถสังเกตความชื้นในดินโดยการใช้นิ้วสัมผัสที่เนื้อดินที่ปลูกโรสแมรี่ ถ้าผิวดินเริ่มแห้งก็สามารถรดน้ำเป็นระยะๆ เพื่อให้ดินชุ่มชื้น

• ในฤดูฝน เป็นฤดูที่ต้องดูแลต้นโรสแมรี่เป็นพิเศษ เพราะมีปริมาณน้ำมากและความชื้นสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่โรสแมรี่ไม่ชอบ อาจทำให้โรสแมรี่เป็นโรครากเน่า หรือใบไหม้ ดังนั้นการการปลูกต้นโรสแมรี่ในกระถางจะสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายต้นโรสแมรี่เข้าสู่ที่ร่ม หรือหลบฝนได้ เพื่อลดการรับปริมาณน้ำและความชื้น ซึ่งอาจมีผลต่อโรครากเน่า
• ส่วนให้ฤดูร้อน ให้รดน้ำวันละครั้ง แต่ถ้าอากาศร้อนจัดๆๆ ควรรดน้ำเช้าและเย็น สังเกตความชื้นในดิน ไม่ควรปล่อยให้ดินแห้งมาก

• โรสแมรี่เป็นสมุนไพรที่ใช้ใบประกอบอาหารหลากหลายเมนู ควรใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนเพื่อให้ใบเขียวสวยงาม เช่นใส่ปุ๋ยอินทรีย์,จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง, หรือปุ๋ยมูลไส้เดือน
  • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ อุดมไปด้วยธาตุอาหารหลัก และรองในดินมากมายที่ช่วยบำรุงดินและต้น
  • จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ใช้รดบำรุงดิน และต้นพืช นอกจากนี้ยังช่วยขจัดโรคในดินได้
  • ปุ๋ยมูลไส้เดือน ช่วยบำรุงดินและปรับสภาพดินให้ดีขึ้น, ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา
• ในการบำรุงรากให้แข็งแรงนั้น ควรบำรุงด้วยปุ๋ยที่อุดมไปด้วยฟอสฟอรัสสูงคือ การใส่ปุ๋ยมูลค้างคาว มีธาตุฟอสฟอรัสสูง ช่วยกระตุ้นให้รากของพืชงอกงามดี และช่วยทำให้ดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี

1. การเลือกวัสดุของกระถาง

วัสดุที่ควรเลือกมี 2 ชนิด คือ พลาสติก หรือดินเผา ขึ้นอยู่ลักษณะการปลูก

• ในกรณีที่ต้นโรสแมรี่วางไว้ในตำแหน่งที่ไม่ได้เคลื่อนย้ายบ่อยๆๆ ควรเลือกปลูกในกระถางดินเผา เนื่องจากกระถางดินเผามีรูพรุนรอบกระถาง ทำให้ระบายความชื้น และถ่ายเทอากาศได้ดี แต่กระถางดินเผามีน้ำหนักมาก และแตกง่าย จึงไม่เหมาะสมกับการที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อยๆ
• ในกรณีที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อยๆ ควรปลูกในกระถางพลาสติก เพราะมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย เนื่องจากกระถางพลาสติกมีลักษณะทึบแสง การระบายอากาศได้ไม่ดีเท่ากับกระถางดินเผาเพราะไม่มีรูระบายอากาศ ดังนั้นการปลูกโรสแมรี่ในกระถางพลาสติกในหน้าฝนต้องระมัดระวังเรื่องรากเน่า นอกจากนี้วัสดุพลาสติกเมื่อตากแดดนานๆๆอาจกรอบและเสียหายได้

2. การเลือกขนาดของกระถางให้เหมาะสมกับขนาดต้นไม้

ในการเลือกกระถางที่จะย้ายปลูก ควรเลือกกระถางทรงมาตรฐาน ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่ากระถางที่ปลูกอยู่ปัจจุบันประมาณ2-4นิ้ว เพื่อเผื่อการขยายของราก เช่นปัจจุบันปลูกในกระถางขนาด 6 นิ้ว การย้ายไปปลูกในกระถางใหม่ควรเลือกกระถางขนาด 8 ถึง 10 นิ้ว

• การปลูกต้นโรสแมรี่ในบ้านในช่วงหน้าฝนสามารถทำได้ แต่ต้องคำนึกถึงอีกปัจจัยคือ เรื่องแสงแดด
• หาบริเวณที่วางต้นโรสแมรี่ที่แดดส่องถึงต้นโรสแมรี่อย่างน้อย 6 ชม.ต่อวัน

ต้นโรสแมรี่มีรูปร่างทรงพุ่ม ถ้าต้องการให้โรสแมรี่มีใบดกสวยงาม ต้องตัดแต่งโดยการตัดยอดออก เพื่อให้แตกกิ่งใหม่ไปเรื่อยๆๆ และยังทำให้เป็นต้นขยายเป็นทรงพุ่มสวยมากขึ้น

AnndaGarden

ศูนย์รวมต้นกล้าผักสวนครัวในกระถาง, สมุนไพร, และเมล็ดพันธุ์ 

Shop Now

• ไม่ควรตัดแต่งต้นมากจนเกินไป การตัดแต่งไม่เกินกว่า 1/3 ของขนาดต้น
• ควรตัดส่วนที่เหนือข้อต่อของใบ
• หลังจากตัดแต่งต้นโรสแมรี่แล้ว สามารถนำก้านที่ถูกตัดออกมาไปตากแดดเพื่อทำโรสแมรี่แห้ง, ประกอบอาหารเพื่อให้มีกลิ่นหอม, หรือจะนำมาปักชำต่อ

ต้นโรสแมรี่เป็นสมุนไพรที่ปลูกไม่ยาก หากเข้าใจลักษณะนิสัย และเป็นสมุนไพรที่ชอบแดด ดินระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบน้ำท่วมขัง นอกจากนี้การปลูกต้นโรสแมรี่ในฤดูต่างๆๆ ยังคงต้องใส่ใจในการดูแลที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะฤดูฝนเป็นฤดูที่โรสแมรี่ไม่ค่อยชอบ เนื่องจากความชื้นสูงอาจทำให้ตายด้วยโรคต่างๆได้ง่าย

ข้อมูลอ้างอิง

1. https://www.climatetypesforkids.com/mediterranean-climate