พริกเป็นพืชที่คนไทยเราคุ้นเคย และทานเป็นประจำ แทบทุกเมนูของคนไทยต้องใส่พริกเป็นส่วนประกอบ มีวิธีการนำมาประกอบอาหารหลายแบบ ไม่ว่าจะกินสด แห้ง เผา ดอง หรือนำมาแกง นอกจากนี้คนไทยยังมีหลากหลายเมนูน้ำพริกต่างๆๆ ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อนำมาประกอบอาหาร
แหล่งกำเนิดของพริก
พริกมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ เมล็ดพริกทนทานมาก และ ปรับตัวใช้เข้ากับนสภาพแวดล้อมได้ดีมาก จึงงอกและเจริญเติบโตได้เกือบทุกที่ ทำให้พริกแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างง่ายดาย นอกจากนี้แล้ว📌พริกถึงแม้จะมีรสเผ็ดแต่มีประโยชน์มากมายที่ดีต่อสุขภาพ
ลักษณะของพริก
พริกเป็นไม้พุ่ม
ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขาแบบรัศมี และกิ่งแขนงแตกสาขาแบบทวีคูณ จาก 2 กิ่งเป็น 4 กิ่ง และ 8 กิ่ง เป็นต้น บ่อยครั้งมีกิ่งแขนงแตกจากระดับใต้ดินเจริญคล้ายเป็นต้นใหม่อยู่รวมกันเป็นกระจุก
ต้นมีขนาดพุ่มลักษณะต่างๆ กันเช่น พุ่มเตี้ย และ พุ่มสูง และเป็นพืชล้มลุก ต้นสูงประมาณ 30-100 เซนติเมตร
ดอก
กลีบดอกมีสีขาวหรือเขียวอ่อน หรือสีน้ำเงินอ่อน แยกตัวเป็นกระเปาะยาวๆ รังไข่มี 2 ส่วน หรือมากกว่านี้ ก้านชูเกสรตัวเมียสีขาว หรือสีม่วง
ผล
ผลพริกไม่แตก เป็นชนิด berry มีเมล็ดมาก มีทั้งผลห้อย หรือผลตั้ง ผลเกิดที่ข้อ ขนาดรูปร่าง สี ความเผ็ดที่ต่างกัน ความยาวประมาณ 1-30 เซนติเมตร
ใบ
ใบเดี่ยวมีขนาดต่างๆกัน , ก้านใบมีความยาวประมาณ 5-2.5 เซนติเมตร , ใบกว้างมีรูปไข่ , ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ใบบาง และส่วนใหญ่ไม่มีขน
ราก
ต้นพริกราก 2 ชนิด 1.รากแก้ว เป็นรากขนาดใหญ่ที่งอกลงไปตรงๆ คล้ายเสาเข็ม , 2.รากฝอย เป็นรากเล็กๆ แตกแขนงออกมาจากรากแก้ว เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดน้ำและแร่ธาตุจากดิน
ชนิดของพริกที่นิยมนำมาประกอบอาหารเป็นประจำควรปลูกติดบ้าน
1. พริกขี้หนูสวน
ผลมีขนาดเล็ก มีสีเขียว ยาวเพียง 1-3 เซนติเมตร มีเมล็ดน้อย เป็นพริกที่มีรสเผ็ดจัด มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นพริกที่คนไทยนิยมนำมาทำอาหารมากที่สุด เช่น น้ำพริก ส้มตำ หรือกินสดๆ แนมกับอาหารต่างๆ เช่นสาคูไส้หมู หรือนำมาโรยหน้า เรียกว่า พริกลูกโดด
2. พริกขี้หนูใหญ่
ผลเรียวยาวประมาณ 7-10 เซนติเมตร มีกลิ่นเหม็นเขียวมากกว่าพริกขี้หนูสวน นิยมนำไปทำน้ำพริก และแปรรูปเป็นพริกแห้ง มีพันธุ์ท้องถิ่น เช่น พันธุ์ฮ๊อทซอต, พันธุ์มันดำ, พันธุ์หัวเรือ, พันธุ์จินดา, พันธุ์กำแพงแสน 513 , ฯลฯ 1
3. พริกชี้ฟ้า
หรือเรียกว่า พริกเดือยไก่ พริกหลวง พริกบางช้าง ผลยาว 5-20 เซนติเมตร เผ็ดปานกลาง ก้านพริกแข็ง ผลชี้ขึ้นฟ้าตั้งแต่อ่อนจนแก่ มีผลขนาดใหญ่ นิยมนำมาทำซอสพริก ใส่แกงเผ็ด หรือประดับตบแต่งอาหาร เช่นพริกเหลือง
4. พริกกะเหรี่ยง
เป็นพริกพันธุ์พื้นเมืองของชาวกะเหรี่ยง ลักษณะคล้ายพริกขี้หนูสวน แต่มีขนาดใหญ่กว่านิยมนำมาทำพริกป่น และน้ำจิ้มต่างๆ เมนูโด่งดังคือก๋วยเตี๋ยวพริกกะเหรี่ยง
5. พริกหนุ่ม
เป็นพริกชี้ฟ้าชนิดหนึ่ง ปลูกในภาคเหนือ นิยมเก็บเกี่ยวตอนที่ผลยังอ่อน จึงเป็นที่มาของชื่อพริกหนุ่ม มักนำมาทำน้ำพริก โดยเฉพาะน้ำพริกหนุ่ม ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของภาคเหนือ แบ่งออกเป็น2 ประเภท 1.พริกหนุ่มขาว 2. พริกหนุ่มเขียว สังเกตจากสีผิวที่ต่างกัน
6. พริกหยวก
ผลขนาดผลโตป้อม ยาวประมาณ 8-10 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-4 ซม มีเมล็ดในน้อย เปลือกผลมันวาว รสไม่เผ็ดมาก ผลอ่อนมีสีเขียว และผลแก่มีสีเขียวอมแดง ส่วนใหญ่ทำเมนู ผัดพริกหยวกหมู พริกหยวดยัดไส้, พริกหยวกยัดไส้หมูสับ ,พริกหยวกผัดไข่, น้ำพริก ฯลฯ
7. พริกหวาน
(Bell pepper) เป็นพืชประจำท้องถิ่นประเทศแม็กซิโก มีลักษณะเหมือนระฆัง มีสีผลหลายสี เช่น สีเขียว ส้ม เหลือง แดง เผ็ดน้อยมาก ขนาดผลใหญ่เหมือนผลไม้ ผิวเปลือกหนาลื่น เมนูที่นำพริกหวานมาประกอบอาหารเช่น หมูผัดพริกหวาน, กินสดนำไปใส่ในสลัดผัก, หรือพริกหวานยัดใส้
- พริกชนิดอื่นๆ3 เช่น
พริกฮาบาเนโรสีแดง (red habanero pepper) เป็นพริกที่มีความเผ็ดปานกลางถึงเผ็ดมาก ความเผ็ดคงทนยาวนานถึง 2 ชั่วโมง
shop nowพริกฮาบาเนโรสีส้ม (Orange habanero pepper) ปลูกมากในประเทศเม็กซิโก รูปร่างกลมป้อมผิวสีส้ม นูนโดยรอบ
พริกจาลาเปโน เป็นพริกสีเขียว ลักษณะป้อมยาว เมื่อสุกจะเป็นสีแดง เนื้อพริกหนา รสเผ็ดปานกลาง นิยมกินสดๆ
พริกโพลาโนใหญ่ มีขนาดยาว 7 นิ้ว มีรสเผ็ดน้อย ออกรสหวานนิดๆ นิยมกินทั้งสดและนำมาปรุงอาหาร
พริกกล้วย หรือพริกฮาอิ เป็นพันธุ์แบคตัมของชาวเกาะฮีสปาเนียวลา หนึ่งในหมู่เกาะเวลต์ อินดีส
พริกอะนมฮีม ขนาดใหญ่ และยาว ผิดเปลือกเป็นลอนแข็ง รสชาติไม่เผ็ดมาก นิยมนำมาทำอาหารเม็กซิกัน ใส่ในซอส ซุปหรือทำเป็นพริกดอง
การปลูกพริก
4.1 การปลูกพริกจากเมล็ด
การปลูกพริกทำได้หลายวิธี เช่น หยอดเมล็ดลงหลุม หรือนำเมล็ดไปห่อด้วยผ้าชุบน้ำจนเริ่มมีรากงอก แล้วค่อยนำไปหยอดลงดินก็ได้
แต่วิธีที่ได้รับความนิยมที่สุด คือการเพาะเมล็ดในถาดเพาะ รอให้งอกเติบโตเป็นต้นกล้าก่อน จึงค่อยย้ายไปปลูกลงดิน วิธีนี้ช่วยให้ต้นพริกแข็งแรงและเติบโตเร็ว
เตรียมแปลงปลูก
หลังจากเพาะเมล็ดจนงอกเป็นต้นกล้า ก็แข็งแรงแล้ว ก็ต้องย้ายต้นกล้าไปลงแปลงปลูก เพื่อให้ต้นกล้ามีพื้นที่เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ก่อนย้ายกล้าต้องเตรียมพื้นที่ทำแปลงปลูกให้ดี ต้นพริกจะได้โตเร็ว
- พื้นที่ที่เลือกปลูก ควรเป็นพื้นที่โล่ง แสงแดดส่องถึง
- ดินควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย เพราะระบายน้ำได้ดี
การเตรียมดิน
- ไถพรวนดินให้แตกร่วน แล้วตากทิ้งไว้ 5-7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรค
- ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 2-4 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร จากนั้นพรวนดินอีกครั้ง
- ขุดแยกแปลงสูง 20 เซนติเมตร กว้าง 1 เมตร ความยาวแปลงแล้วแต่ขนาดพื้นที่ แต่ละแปลงควรอยู่ห่างประมาณ 50 เซนติเมตร
- คลุมแปลงด้วยแผ่นพลาสติกสีดำ
- ใช้คัตเตอร์กรีดแผ่นพลาสติกคลุมแปลงเป็นรูปกากบาท (X) 2 แถว จุดห่างกัน 50 เมตร
- ใช้มือแหวกจุดที่กรีดให้เป็นช่องขนาดพอใส่ต้นกล้าลงไปได้ เพียงเท่านี้ก็ได้แปลงปลูกต้นพริกที่พร้อมใช้งานแล้ว
การย้ายกล้า
เวลาย้ายกล้าควรเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดไม่จัด อาจเป็นตอนเช้า หรือตอนเย็น เพื่อไม่ให้ต้นกล้าเหี่ยว
วิธีทำ
- ก่อนย้ายต้นกล้า ควรหยุดรดน้ำ 3 วัน จนกระทั่ง 1 ชั่วโมง ก่อนย้ายจึงรดน้ำให้ชุ่ม เพื่อให้ดินรอบๆๆ รากนิ่ม จะได้ดึงต้นกล้าออกจากถาดเพาะได้ง่าย
- เคล็ดลับการย้ายต้นกล้า ต้องย้ายอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ต้นกล้าบอบช้ำ ควรจับต้นกล้าบริเวณเหนือใบคู่แรก อย่างจับที่โคนต้น เพราะถ้าโคนต้นบอบช้ำ หรือเกิดแผล เชื้อราจะเข้าทำลายได้ง่าย
- ขุดดินตรงตำแหน่งที่เจาะรูบนแผ่นพลาสติกให้หลุมลึกประมาณ 10 เซนติเมตร จากนั้นวางต้นกล้าลงตรงกลางหลุม กลบดินรอบโคนต้น กดให้แน่น ระวังอย่าให้รากลอยเพื่อป้องกันต้นกล้าล้ม
- เล็มยอดไม่ให้ต้นสูงเกินไป เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่ม
หลังจากย้ายต้นกล้าแล้ว ประมาณ 10-14 วัน ให้ใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกบำรุงดิน โดยใส่ห่างจากโคนต้นประมาณ 2 คืบ และหมั่นกำจัดวัชพืช
การเก็บพริก
หลังจากย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูก รดน้ำ ใส่ปุ๋ย ดูแลต่ออีก 2-4 เดือน ต้นพริกก็พร้อมผลิดดอกออกผลแล้ว
- เก็บเกี่ยวพริกสด
การเก็บเกี่ยวควรเลือกเก็บผลพริกสีเขียวอมส้ม หรือแดง เพราะพริกกำลังจะสุก เนื้อยังแข็ง ไม่ช้ำง่าย แต่ถ้าพริกหนุ่ม หรือพริกหยวก นิยมเก็บเมื่อผลมีสีเขียวอมเหลือง
- อายุของต้นพริก
เก็บพริกมากินได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง จนกระทั่งอายุ 6-7 เดือน ต้นพริกจะเริ่มแก่โทรม และออกผลน้อยลงเรื่อยๆ แต่ถ้าดูแลดีๆๆ ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกสม่ำเสมอ ต้นพริกอาจมีอายุได้ถึง 1 ปี
- การบำรุงดิน ก่อนปลูกครั้งต่อไป
เมื่อต้นพริกแก่และโทรม ให้ถอนออกแล้วปลูกพืชตระกูลถั่วแทน เมื่อต้นถั่วมีอายุ 45 วัน จึงไถกลบ ปล่อยทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ ต้นถั่วจะย่อยสลายเป็นธาตุอาหารให้ดินช่วยให้ดินพร้อมสำหรับพริกรุ่นต่อไป
4.2 ปลูกพริกในกระถาง
สำหรับใครที่หาพื้นที่กว้างๆ ไม่ได้ ก็สามารถปลูกพริกในกระถางแทนได้ใช้พื้นที่นิดเดียว ก็เก็บเกี่ยวพริกไว้ทานได้
เตรียมวัสดุการปลูกดังนี้
วิธีการปลูกพริกในกระถาง
- แช่เมล็ดในน้ำอุ่น 1 ชั่วโมง แล้วห่อด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำ ทิ้งไว้ 2-3 วัน
- ใช้หินก้อนเล็กๆ อุดรูที่ก้นกระถาง เพื่อกันไม่ให้ดินไหลออกมาเวลารดน้ำ
- ผสมดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน ขุยมะพร้าว 1 ส่วน คลุกให้เข้ากัน เสร็จแล้วใส่ลงในกระถาง ¾ กระถาง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
- ใช้นิ้วจิ้มดินให้เป็นหลุมเล็กๆ 2 หลุม ลึก 2 เซนติเมตร หยอดเมล็ดพริกลงไป หลุมละ 2 เมล็ด
- ใช้ดินกลบหลุมให้มิด แต่ไม่ต้องอัดดินแน่น รดน้ำเช้า เย็น พอต้นพริกงอกและเริ่มมีใบ 4-5 ใบ รดน้ำน้อยลง โดยสังเกตจากดิน ถ้าดินในกระถางชื้นอยู่ก็ยังไม่ต้องรดน้ำ แต่ถ้าดินแห้งเกินไปก็รดน้ำให้ชุ่มทันที
- สัปดาห์ที่ 1
หยอดเมล็ดพริกลงในถาดเพาะ และรดน้ำสม่ำเสมอ
- สัปดาห์ที่ 2
เตรียมแปลง ไถพรวนดิน ตากแดด 5-7 วัน
- สัปดาห์ที่ 3-4
ไถพรวนอีกครั้ง ขุดยกแปลง คลุมและกรีดพลาสติกเป็นรูปกากบาท แล้วจึงย้ายต้นกล้าพริกลงแปลงปลูก
- สัปดาห์ที่ 5-12
ดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ย และกำจัดวัชพืชสม่ำเสมอ
- สัปดาห์ที่ 13-23
เริ่มเด็ดพริกทานได้แล้ว
- สัปดาห์ที่ 24-28
ถอนต้นพริกทิ้ง ปลูกพืชตระกูลถั่ว 45 วัน จากนั้นไถกลบ ตากดินทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ จึงปลูกพริกอีกครั้ง
Pingback: วิธีทำไก่ผัดพริกหยวก เผ็ดน้อยดีต่อสุขภาพ - kabkaoja
ยินดีสำหรับการใช้ข้อมูลค่ะ
Pingback: แบ่งปันสูตร ไก่ผัดพริกหยวก เมนูอร่อยเนื้อไก่นุ่ม เผ็ดไม่มากแต่ได้สุขภาพดี - สาระแหล่งความ
ยินดีค่ะ