ถิ่นกำเนิดของมาร์จอแรม
มาร์จอแรม (Marjoram)เป็นพืชตระกูลเดียวกับออริกาโน(Oregano) มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งรวมถึงพื้นที่ในยุโรปใต้ แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่นและแห้งแล้ง เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของมาร์จอแรม และเป็นสมุนไพรฝรั่งที่มีความนิยมในการปลูกและใช้ในครัวเรือนทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย
ปลูกมาร์จอแรมไว้ทำอะไร
มาร์จอแรมมีรสชาติ หอมหวานนวล คล้ายมิ้นต์สมุนไพรรสเย็น แต่มีความเผ็ดร้อนน้อยกว่า และกลิ่นที่นุ่มนวลกว่าออริกาโน มักใช้ในการปรุงรสเพื่อเพิ่มความหอมหวานให้กับอาหาร เป็นสมุนไพรที่ชาวตะวันตกนิยมปลูกไว้ปรุงอาหาร
ใช้ใบสดและแห้ง
- ในการปรุงอาหาร ใส่ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ซุป สลัด และพาสต้า
- นิยมนำมาชงชา
น้ำมันหอมระเหย
น้ำมันหอมระเหย: นวดผ่อนคลาย หรือหยดในอ่างอาบน้ำอาหาร และอื่นๆ
เวชสมุนไพร
- มีคุณสมบัติช่วยลดความเครียด ลดการอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์ของมาร์จอแรม
ต้น
มาร์จอแรมเป็นพุ่มเล็กๆ สูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร มีลำต้นเส้นเล็กและเป็นสีเขียวอ่อน
ใบ
ใบมาร์จอแรมคล้ายออริกาโน แต่เล็กกว่าและมีสีเขียวอมเหลือง ขอบใบเป็นรูปวงรี มีขนาดเล็ก สีเขียวอ่อน และมีกลิ่นหอม
ดอก
มาร์จอแรมมีดอกสีขาวหรือสีชมพู มักจะเป็นดอกเดี่ยวที่บานออกมาจากลำต้น มีลักษณะดอกเล็กๆ และกลิ่นหอม
มาร์จอแรมอายุกี่ปี
มาร์จอแรม (Marjoram) เป็นพืชที่เป็นเวชสมุนไพร เป็นพืชมีอายุประมาณ 2-3 ปี เป็นไม้ทรงพุ่มเตี้ย
วิธีปลูกแลดูแลต้นมาร์จอแรมในไทย
มาร์จอแรม (Marjoram) เป็นพืชในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และสามารถปรับสภาพการอยู่เข้ากับสภาพอากาศในประเทศไทยได้ ซึ่งอาจต้องรู้วิธีการในการเลี้ยงดังนี้
อุณหภูมิที่เหมาะสม
มาร์จอแรมชอบอุณหภูมิที่ระหว่าง 20-30 องศาเซลเซียส แต่อย่างไรก็ดีประเทศไทยค่อนข้างร้อน
ดังนั้นในฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ ควรปลูกมาร์เจอแรมในพื้นที่ๆมีแดดครึ่งวันเช้า และรดน้ำให้บ่อยขึ้นเช่น รดน้ำเช้า และเย็น แต่อย่ารดน้ำมากจนเกินไป
แสงแดด
พืชที่ชอบอากาศอบอุ่นและมีแสงแดดมาก โดยทั่วไปแล้วมาร์จอแรมในประเทศไทยจะชอบเงาอ่อน จนถึงแดดจัด อาจจะปลูกในที่ที่มีแสงแดดเป็นประจำ
แต่ก็ควรระมัดระวังไม่ให้โดนแสงแดดร้อนจัดเป็นเวลานานเกินไปเนื่องจากอาจทำให้ใบเหี่ยวและสลดง่ายได้
การให้น้ำ
เป็นพืชที่ชอบน้ำแต่ระมัดระวังไม่ให้น้ำขังอยู่ในดินเนื่องจากอาจทำให้รากเน่าเสียหายได้
ดินที่ใช้ปลูก
ดินที่เหมาะสมสำหรับมาร์จอแรมคือดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดี
บำรุงใส่ปุ๋ย
เลือกปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยหมักปลาแบบน้ำ
ความถี่ในการใส่ปุ๋ยทุก 15-30 วัน
วิธีการใส่ปุ๋ย
- ใส่ปุ๋ยทางดิน: ควรกระจายปุ๋ยลงบนพื้นดินโดยรอบทรงพุ่ม และหลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ยไปใกล้โคนต้น เพราะอาจทำให้รากเสียหายได้
- ใส่ปุ๋ยทางใบ: สามารถใช้ปุ๋ยน้ำผสมน้ำหมักหรือปุ๋ยน้ำที่ละลายลงไปในช่วงที่พืชต้องการสารอาหารเพิ่มเติม เช่น ช่วงเริ่มออกดอกหรือช่วงของการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
โรคและแมลงศัตรูพืชของมาร์จอแรม
มาร์จอแรมเป็นสมุนไพรที่ค่อนข้างทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช แต่ก็สามารถประสบปัญหาโรคบางชนิดได้ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ความชื้นสูงหรือการระบายน้ำไม่ดี แต่บางครั้งก็อาจมีโรคเกิดขึ้นได้
โรคของต้นมาร์จอแรม
โรคราแป้ง (Powdery Mildew)
อาการ: ใบมีคราบสีขาวคล้ายผงแป้ง ซึ่งอาจขยายตัวและปกคลุมทั้งใบ ทำให้ใบเหลืองและหลุดร่วงได้
วิธีการแก้ไข
- ลดความชื้นรอบๆ ต้น
- ให้แสงแดดส่องถึงมากขึ้น
- ฉีดพ่นด้วยสารสกัดจากกำมะถันหรือใช้สารชีวภาพที่ปลอดภัย เช่น สารชีวภัณฑ์จากเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทีลีส
โรคเน่าคอดิน (Damping-off)
อาการ: ต้นอ่อนเหี่ยวเฉาและเน่าเริ่มจากฐานต้น อาจเกิดขึ้นในช่วงที่ต้นยังเล็ก
วิธีการแก้ไข
- ใช้ดินที่มีการระบายน้ำดี
- หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป
- ใช้สารป้องกันเชื้อราที่ปลอดภัย เช่น สารชีวภัณฑ์จากเชื้อราไตรโคเดอร์มา
โรคใบจุด (Leaf Spot)
อาการ: ใบมีจุดสีดำหรือน้ำตาล ซึ่งอาจขยายใหญ่และรวมตัวกัน ทำให้ใบหลุดร่วง
วิธีการแก้ไข
- ตัดใบที่เป็นโรคออกและเผาทำลาย
- รักษาความสะอาดรอบๆ ต้น
- ฉีดพ่นด้วยสารชีวภาพที่ปลอดภัย เช่น สารชีวภัณฑ์บาซิลลัส ซับทิลิส
โรครากเน่า (Root Rot)
- อาการ: รากเน่าและมีสีดำ ต้นเริ่มเหี่ยวเฉาและตายวิธีการแก้ไข
- หลีกเลี่ยงการให้น้ำมากเกินไป
- ใช้ดินที่มีการระบายน้ำดี
- ถ้าพบอาการหนัก ควรขุดต้นที่เป็นโรคออกและเปลี่ยนดินใหม่ พร้อมใส่การกำจัดโรคโดยการผสมในดิน หรือฉีดพ่นทางใบ พ่นสารชีวภัณฑ์จากเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทีลีส หรือ สารชีวภัณฑ์จากเชื้อราไตรโคเดอร์มา
แมลงศัตรูพืช
เพลี้ยอ่อน (Aphids):
- ดูดน้ำเลี้ยงจากใบและยอด ทำให้ใบหงิกงอ
- การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช คือฉีดพ่นด้วยน้ำสบู่ หรือสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช เช่น สารชีวภัณฑ์จากเชื้อราบูเวเรีย บัสเชียน่า
ไรแดง(Spider Mites):
- ดูดน้ำเลี้ยงจากใบ ทำให้ใบเหลืองและแห้ง
- การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช คือฉีดพ่นด้วยน้ำสบู่ หรือสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช เช่น สารชีวภัณฑ์จากเชื้อราบูเวเรีย บัสเชียน่า
สารอาหารสำคัญในมาร์จอแรม
สารอาหารสำคัญในมาร์จอแรม
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ และคาโรทีนอยด์ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
- วิตามินหลากหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินเค ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิต บำรุงกระดูก และกล้ามเนื้อ
- มีสารฟีนอล เช่น คาร์วาครอล และไทมอล มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้
สรรพคุณของมาร์จอแรม
มาร์จอแรม เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมหวาน ชวนให้นึกถึงกลิ่นมิ้นท์และออริกาโน ผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกจากจะใช้ปรุงอาหารให้มีรสชาติอร่อยแล้ว มาร์จอแรมยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ ดังนี้
สรรพคุณทางยา
เมนูอาหารที่ทำจากมาร์จอแรม
มาร์จอแรมชาวตะวันตกนิยมนำมาทำเป็นยา และอาหาร เช่น
- ชามาร์จอแรม: ใช้ใบแห้งหรือสดในการชงชาเพื่อดื่ม
- น้ำมันหอมระเหย: ใช้สำหรับนวดหรือสูดดมเพื่อผ่อนคลาย
- ปรุงอาหาร: ใช้เป็นเครื่องปรุงในอาหารต่างๆ เช่น ซุป สตูว์ พาสต้า และสลัด
การทำชามาร์จอแรม
วัตถุดิบที่ใช้:
- ใบมาร์จอแรมแห้ง: 1-2 ช้อนชา หรือ ใบสด 4-5 ก้านใบ
- น้ำร้อน: 1 ถ้วย (ประมาณ 250 มิลลิลิตร)
- น้ำผึ้ง (ตามต้องการ)
- มะนาว 1 ซีก (ทางเลือก)
ขั้นตอนการชง:
- เตรียมน้ำร้อน: ต้มน้ำจนเดือด จากนั้นปล่อยให้เย็นลงเล็กน้อย
- เตรียมใบชา: ใส่ใบมาร์จอแรมแห้งลงในถ้วยชา (ประมาณ 1-2 ช้อนชา ต่อถ้วย) หรือใบสดประมาณ 4-5 ก้านใบ
- ชงชา: เทน้ำร้อนที่เตรียมไว้ลงในถ้วยชา ปล่อยให้ชาแช่ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้กลิ่นและรสชาติของมาร์จอแรมละลายออกมา สังเกตว่าน้ำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองชา แสดงว่าได้ที่แล้ว
- เสิร์ฟ: กรองใบชาออกจากน้ำชา เติมน้ำผึ้งและมะนาวตามชอบ
ชามาร์จอแรมมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายและบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และระบบย่อยอาหาร ทั้งใบแห้งและใบสดต่างก็ให้รสชาติที่หอมและนุ่มนวล ซึ่งสามารถเลือกใช้ตามความสะดวก
ไก่อบมาร์จอแรม (Marjoram Roasted Chicken)
วัตถุดิบ:
- ไก่ทั้งตัวหรืออกไก่
- มาร์จอแรมสดหรือแห้ง
- กระเทียม
- น้ำมันมะกอก
- เกลือและพริกไทย
- มะนาว (ทางเลือก)
วิธีทำ:
- ผสมมาร์จอแรม กระเทียม น้ำมันมะกอก เกลือ และพริกไทยให้เข้ากัน
- ทาไก่ทั้งตัวด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้
- วางไก่ในถาดอบ แล้วอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือจนไก่สุก
- เสิร์ฟพร้อมกับมะนาวหั่นเสี้ยว
สินค้าที่น่าสนใจ
ต้นโรสแมรี่เลื้อย
ต้นหญ้าหวาน|
69฿Original price was: 69฿.59฿Current price is: 59฿.ต้นเปปเปอร์มินต์ (Peppermint)
ต้นกะเพราแดง
ต้นพริกขี้หนู
ต้นสะระแหน่
ต้นวอเตอร์เครสเขียว
ต้นผักชีฝรั่ง
ต้นจิงจูฉ่าย
ต้นกระชายขาว
ต้นวอเตอร์เครสแดง
เมล็ดพันธุ์กะเพราแดง
เมล็ดพันธุ์โหระพา
เมล็ดผักสลัดบิ๊กเรดโอ๊ค
เมล็ดพันธุ์กะเพราป่า
เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศลูกท้อ
เมล็ดพันธุ์คะน้ายอด
เมล็ดพันธุ์แมงลัก เจียไต๋
เมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาวพันธุ์เนื้อ
เมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม
เมล็ดพันธุ์บวบงูสเน็กกี้
เมล็ดพันธุ์ผักกะหล่ำปลี
ปุ๋ยมูลไส้เดือน100% (vermicompost)
ปุ๋ยน้ำอินทรีย์น้ำทิพย์ชโลมพืช
ช่องาม อีเอ็ม(EM)
ไตรซาน ไตรโคเดอร์มา แอสเพอร์เรียลลัม
สารชีวภัณฑ์เมทาซาน เมทาไรเซียม แอนิโซเพลีย
ชีวภัณฑ์บูเวริน บูเวเรีย บัสเซียน่า
น้ำส้มควันไม้ ทีพีไอ สูตรพรีเมียมโกลด์ ไร้กลิ่น
ไลซินัส พาซิโลมัยซิส ไลลาซินัส
บทความที่น่าสนใจ
บทความอื่นๆเพิ่มเติม▶️
19 ของเหลือในครัว ทำปุ๋ยได้ง่ายแบบโฮมเมด
ดอกบานชื่นเป็นดอกไม้มงคลทานได้
ดอกบานชื่น มีคว...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ฟักทองพันธุ์ต่างๆและวิธีปลูก
ฟักทองยอดนิยมพั...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ปลูกแวววิเชียรให้ออกดอกทั้งปี
การบำรุงแวววิเช...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
เทคนิคการปลูกแววมยุราอย่างมืออาชีพ
เคล็ดลับการปลูก...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
จิงจูฉ่ายมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ผักใบเขียวปลูกง...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ปลูกช็อกโกแลตมิ้นต์ กลิ่นเย้ายวนหอมเย็น
ปลูกช็อกโกแลตมิ...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
มาร์จอแรมสมุนไพรรสละมุน
มาร์จอแรมเป็นสม...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️