ถิ่นกำเนิดของออริกาโน
- ถิ่นกำเนิด: ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน
- ออริกาโน เป็นสมุนไพรฝรั่งอยู่ในวงศ์กะเพรา (Lamiaceae) ซึ่งเป็นวงศ์พืชดอกที่มีสมาชิกมากกว่า 236 สกุลและ 7,000 ชนิด สมาชิกที่รู้จักกันดีที่สุดในวงศ์นี้ ได้แก่ กะเพรา โรสแมรี่ ต้นไทม์ และลาเวนเดอร์
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของออริกาโน
- ชื่อสามัญ : Oregano
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Origanum vulgare
- ชื่ออื่น : มาร์จอมป่า (Wild Marjoram)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ออริกาโนเป็นพืชล้มลุก เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กตระกูลเดียวกับสะระแหน่ ปล้องและลำต้นค่อนข้างสั้น
ลำต้น
ลำต้นแตกกิ่ง ก้านสาขามาก กิ่งมักทอดตัวไปตามพื้นดิน ข้อปล้องที่ติดกับดินจะมีราก งอกออกมา ต้นและใบสีเขียวอมเทา เป็นที่สะสมน้ำมันหอมระเหย มีขนปกคลุมมาก
ใบ
รูปไข่แกมขอบขนาน ปลายแหลม โคนใบมน ออกตรงข้ามกัน ยาว 1-4 ซม. มีขนปกคลุม
ดอก
ดอกออกตามปลายกิ่งเป็นช่อเล็กๆ สีขาวและสีชมพูอ่อน
ออริกาโนมีกี่ชนิด
มีการค้นพบและบันทึกสายพันธุ์ออริกาโนไว้มากกว่า 40 สายพันธุ์ กระจายอยู่ทั่วโลกสายพันธุ์ออริกาโนจะแยกตามลักษณะ กลิ่นหอม และรสชาติที่แตกต่างกัน นอกจากนี้แล้วมาร์จอแรม (Origanum majorana) ก็เป็นสมุนไพรฝรั่งที่นิยมนำมาประกอบอาหารอิตาเลียนและอยู่ในตระกูลเดียวกับออริกาโน ซึ่งมีลักษณะใบคล้ายกัน แต่มีกลิ่นหอมหวาน
สายพันธุ์ออริกาโนที่พบมาก ได้แก่
- ออริกาโน (Origanum vulgare) สายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุด มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน
- ออริกาโนกรีก (Origanum heracleoticum) มีกลิ่นหอมแรง นิยมใช้ในอาหารกรีก
- ออริกาโนสีทอง (Origanum vulgare ‘Aureum’) พันธุ์นี้มีใบอ่อนกว่าและมีรสชาติอ่อนกว่าพืชสายพันธุ์หลัก นิยมใช้เป็นไม้ประดับมากกว่าสมุนไพรในการประกอบอาหาร
- ค็อกเทลออริกาโน (Origanum dictamnus) มีกลิ่นหอมคล้ายมะนาว นิยมใช้ในค็อกเทล
สายพันธุ์ที่มีในเมืองไทย
- Origanum vulgare ในเมืองไทยเรียกว่า “ออริกาโน”สายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุด มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน
- Origanum majorana หรือเรียกว่า “มาร์จอแรม” มีกลิ่นหอมหวาน นิยมใช้ในอาหารอิตาเลียน สามารถปลูกในเมืองไทยได้เช่นกัน
ความแตกต่างระหว่าง “ออริกาโน” และ “มาร์จอแรม”
ออริกาโน(Oregano)
- ถิ่นกำเนิด: ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน
- กลิ่นหอม: ใบสดมีกลิ่นหอมแรง แต่ไม่เท่ากับแบบแห้ง หรือสกัดน้ำมัน
- รสชาติ: เผ็ดซ่าอ่อนๆ เข้าได้กับอาหารแบบมีซอสมะเขือเทศ
- การใช้: อาหารเมดิเตอร์เรเนียน, ชา, ยา, นิยมนำใบแห้งโรยหน้าพิซซ่า
มาร์จอแรม (Marjoram)
- ถิ่นกำเนิด: แถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกเฉียงใต้
- กลิ่นหอม: มีกลิ่นคล้ายสนและส้ม
- รสชาติ: รสชาติเข้มข้นและหอมหวานกว่าออริกาโน
- การใช้: อาหารอิตาเลียน, ชา, ยา, ใบอ่อนใช้แบบสดเป็นสลัดร่วมกับผักอื่นๆ
- น้ำมันหอมระเหยช่วยลดอาการปวดศรีษะจากไมเกรนและอากาศเย็น แก้หวัดได้
- 👉 มาร์จอแรมสมุนไพรรสละมุน
สรรพคุณของออริกาโน
- บรรเทาอาการปวด
- ช่วยคลายกล้ามเนื้อ
- แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- แก้อาการหวัด ไอ ไข้หวัดใหญ่ โดยนำใบมาชงเป็นชา
วิธีปลูกแลดูแลต้นออริกาโนในไทย
ออริกาโน เป็นสมุนไพรฝรั่งที่สามารถปลูกได้ในไทยได้คล้าย👉การปลูกไธม์ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน การปลูกออริกาโนในไทยอาจต้องใส่ใจรายละเอียดมากกว่าการปลูกในเขตหนาวดังนี้
อุณหภูมิที่เหมาะสม
อากาศอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการปลูกออริกาโน คือเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิ 20-30 องศาเซลเซียส
แต่อย่างไรก็ตามออริกาโนสามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ เพราะต้นกำเนิดมาจากแถบเมริเตอร์เรเนียนซึ่งมีอุณหภูมิคล้ายไทยในฤดูร้อน
ดังนั้น ในช่วงหน้าร้อนในไทยให้ปลูกในที่แสงรำไรหรือใต้ต้นไม้ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิให้เย็นขึ้น
แสงแดด
ออริกาโนเป็นพืชที่ชอบแสงแดด แต่อากาศในเมืองไทยมีอุณหภูมิสูงในหน้าร้อน ดังนั้นต้องพยายามควบคุมอุณหภูมิในการปลูก ควรปลูกในที่มีแสงแดดครึ่งวัน หรือใต้ร่มไม้
การให้น้ำ
ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าให้น้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากเน่าได้ สังเกตว่าเมื่อดินแห้งจึงค่อยรดน้ำ ไม่ควรรดน้ำจนดินแฉะ ไม่ชอบน้ำขัง
ดินที่ใช้ปลูก
ควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ดินเหนียวหรือดินที่มีน้ำขังจะทำให้รากเน่าได้ สามารถผสมดินร่วนกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้กับดิน
บำรุงใส่ปุ๋ย
ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเดือนละ 1 ครั้ง
การกำจัดวัชพืช
ควรหมั่นถอนวัชพืชที่ขึ้นบริเวณรอบต้นไธม์ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นออริกาโน
ข้อแนะนำเพิ่มเติม:
- ปลูกในกระถางที่เคลื่อนย้าย หาแสงแดด
- ในหน้าฝนควรวางกระถางใต้ชายคาป้องกันฝนตกหนัก
- คลุมดินด้วยฟางหรือกาบมะพร้าวสับที่แช่น้ำแล้ว เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินในหน้าร้อนได้
- หมั่นสังเกตศัตรูพืช เช่นโรคเชื้อรา
โรคและแมลงศัตรูพืชของออริกาโน
โรคของต้นออริกาโน
โรคราสนิม
- มักเกิดขึ้นในหน้าฝน เมื่ออากาศชื้น ใบมีลักษณะเป็นดวงๆ
- สาเหตุของโรคคือเชื้อรา การป้องกันและกำจัดโรคคือ ตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรคทิ้ง
- การป้องกันและกำจัดโรค โดยฉีดพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น สารชีวภัณฑ์จากเชื้อไตรโคเดอร์มา
แมลงศัตรูพืช
เพลี้ยอ่อน
- เป็นศัตรูพืชที่พบบ่อยในออริกาโน อาการของโรคคือใบออริกาโนจะมีจุดสีเหลืองหรือน้ำตาล
- สาเหตุของโรคคือเพลี้ยอ่อนจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นออริกาโน
- การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช คือ ฉีดพ่นด้วยน้ำสบู่ หรือสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช เช่น สารชีวภัณฑ์จากเชื้อราบูเวเรีย บัสเชียน่า
หนอนกระทู้ผัก
- เมื่อหนอนฟักจากไข่ใหม่ๆ จะรวมกลุ่มกันแทะกินผิวใบพืช ในระยะต่อมาจะเริ่มทำลายยอดรุนแรงมาก สามารกัดกินใบ ก้าน ดอก หัวได้ทุกส่วน
- สาเหตุของโรคคือหนอนกระทู้ผักจะกินใบ
- การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช คือ ฉีดพ่นสารชีวภัณฑ์จากเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ทุริงเยนซีส
เพลี้ยไฟ
- เป็นศัตรูพืชที่พบบ่อยในออริกาโน อาการของโรคคือใบออริกาโนจะมีจุดสีเหลืองหรือน้ำตาล
- สาเหตุของโรคคือเพลี้ยไฟจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นออริกาโน จะทำให้ใบบิดงอบิดเบี้ยว
- การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช สารชีวภัณฑ์จากเชื้อราเมตาไรเซียม อะนิโซเพล หรือ สารชีวภัณฑ์บูเวริน บูเวเรีย บัสเซียน่า
เมนูอาหารจากออริกาโน
ออริกาโนเป็นพืชที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารโดยใช้ใบแห้งมากกว่าใบสด ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูมะเขือเทศ ไข่และไข่เจียว ไก่ ปลาและหมู ผักปรุงสุก น้ำสลัดวินเนเกรต และอื่นๆ มาบอกวิธีการทำออริกาโนแห้งและเมนูอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ออริกาโนแห้ง
วิธีการตากแห้ง
- ตัดออริกาโนสดเป็นก้านตามความต้องการ
- นำมาล้างให้สะอาดก่อนนำมาตาก
- ใส่ถาดแล้วนำมาตากแดด 1-3 แดด เพื่อให้ออริกาโนแห้งสนิด
- หลังจากนั้น รูดใบออกจากก้าน
- นำใบที่รูดออกมา ใส่เครื่องบดเพื่อให้ละเอียดขึ้น ก่อนนำไปบรรจุในภาชนะเพื่อเก็บไว้ใช้
การอบแห้ง (Oven)
- ตัดออริกาโนสดเป็นก้านตามความต้องการ
- นำมาล้างให้สะอาด และทำให้สะเด็ดน้ำ
- เปิดเตาอบที่ 170 F°
- วางออริกาโนเป็นชั้นเดียวบนถาดอบ อบเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- หลังจากนั้น รูดใบออกจากก้าน
- นำใบที่รูดออกมา ใส่เครื่องบดเพื่อให้ละเอียดขึ้น ก่อนนำไปบรรจุในภาชนะเพื่อเก็บไว้ใช้
SHOPPING
ใบออริกาโนแห้ง แม็คคอร์มิค(McCormick Oregano leave)
เช็คราคาและส่วนลดที่ SHOPEE เช็คราคาและส่วนลดที่ LAZADAออริกาโนแห้ง ตรามือที่1 ขนาด 100 กรัม (Oregano leave 100g.)
เช็คราคาและส่วนลดที่ SHOPEE เช็คราคาและส่วนลดที่ LAZADAน้ำชาออริกาโน
วัตถุดิบ
- ใบออริกาโนแห้งที่บี้ละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำต้มสุก 12 ออนซ์ หรือ 350 มิลลิลิตร
- น้ำผึ้ง (หรือสารให้ความหวานอื่นๆ เช่นน้ำตาล ) ตามชอบ
วิธีทำ
- บดใบออริกาโนโดยถูระหว่างฝ่ามือหรือกระทั่งบดเป็นจังหวะในเครื่องบดเครื่องเทศ
นำใบออริกาโนแห้งแช่ในน้ำร้อน ปิดฝาไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วจึงกรอง และนำมาดื่ม
รสชาติชาออริกาโน จะมีรสชาติที่มีกลิ่นค่อนข้างฉุน แต่มีสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณเป็นอย่างมาก
ขนมปังกรอบออริกาโน
วัตถุดิบ
- ขนมปังอิตาเลียนก้อน 1 (1 ปอนด์)
- เนย 5 ช้อนโต๊ะ นิ่มลง
- กระเทียม 3 กลีบบด
- น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 2 ช้อนชา
- ออริกาโนแห้ง 1 ช้อนชา
- เกลือและพริกไทย(ตามต้องการ)
- มอสซาเรลล่าชีสขูดฝอย 1 ถ้วย
วิธีทำ
1.นำส่วนผสม(ข้อ 2-6) มาผสมกัน
2.เปิดเตาอบเพื่อทำการpre-heatประมาณ 320 F° และ ตัดขนมปังก้อนเป็นชิ้นๆ ละขนาด 1 นิ้ว
3.ผสมเนย กระเทียม น้ำมัน ออริกาโน เกลือ และพริกไทยเข้าด้วยกันในชาม ทาส่วนผสมที่ขนมปัง และจัดเรียงขนมปังที่ทาแล้วบนถาดอบ เพื่อเตรียมอบ
4.นำมาอบ ตรวจดูหน้าไม่ให้ไหม้ ใช้ไฟประมาณ 320 F° ประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าจะสุกกรอบ
5.นำมอสซาเรลล่าชีสขูดฝอย ไปโรยที่หน้าขนมปัง และอบต่อประมาณอีก 2 นาที เพื่อให้ชีสละลาย
- เสริฟร์ทานตอนร้อน อร่อยมาก
สินค้าที่น่าสนใจ
ต้นโรสแมรี่เลื้อย
ต้นหญ้าหวาน|
69฿Original price was: 69฿.59฿Current price is: 59฿.ต้นเปปเปอร์มินต์ (Peppermint)
ต้นกะเพราแดง
ต้นพริกขี้หนู
ต้นสะระแหน่
ต้นวอเตอร์เครสเขียว
ต้นผักชีฝรั่ง
ต้นจิงจูฉ่าย
ต้นกระชายขาว
ต้นวอเตอร์เครสแดง
เมล็ดพันธุ์กะเพราแดง
เมล็ดพันธุ์โหระพา
เมล็ดผักสลัดบิ๊กเรดโอ๊ค
เมล็ดพันธุ์กะเพราป่า
เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศลูกท้อ
เมล็ดพันธุ์คะน้ายอด
เมล็ดพันธุ์แมงลัก เจียไต๋
เมล็ดพันธุ์ถั่วฝักยาวพันธุ์เนื้อ
เมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่ม
เมล็ดพันธุ์บวบงูสเน็กกี้
เมล็ดพันธุ์ผักกะหล่ำปลี
ปุ๋ยมูลไส้เดือน100% (vermicompost)
ปุ๋ยน้ำอินทรีย์น้ำทิพย์ชโลมพืช
ช่องาม อีเอ็ม(EM)
ไตรซาน ไตรโคเดอร์มา แอสเพอร์เรียลลัม
สารชีวภัณฑ์เมทาซาน เมทาไรเซียม แอนิโซเพลีย
ชีวภัณฑ์บูเวริน บูเวเรีย บัสเซียน่า
น้ำส้มควันไม้ ทีพีไอ สูตรพรีเมียมโกลด์ ไร้กลิ่น
ไลซินัส พาซิโลมัยซิส ไลลาซินัส
บทความที่น่าสนใจ
บทความอื่นๆเพิ่มเติม▶️
19 ของเหลือในครัว ทำปุ๋ยได้ง่ายแบบโฮมเมด
ดอกบานชื่นเป็นดอกไม้มงคลทานได้
ดอกบานชื่น มีคว...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ฟักทองพันธุ์ต่างๆและวิธีปลูก
ฟักทองยอดนิยมพั...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ปลูกแวววิเชียรให้ออกดอกทั้งปี
การบำรุงแวววิเช...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
เทคนิคการปลูกแววมยุราอย่างมืออาชีพ
เคล็ดลับการปลูก...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
จิงจูฉ่ายมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ผักใบเขียวปลูกง...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
ปลูกช็อกโกแลตมิ้นต์ กลิ่นเย้ายวนหอมเย็น
ปลูกช็อกโกแลตมิ...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️
มาร์จอแรมสมุนไพรรสละมุน
มาร์จอแรมเป็นสม...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️