จิงจูฉ่ายมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

จิงจูฉ่ายมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

ถิ่นกำเนิดของจิงจูฉ่าย

ชื่อจิงจูฉ่ายในภาษาอังกฤษ White Mugwort (ชื่อวิทยาศาสตร์: Artemisia lactiflora)

  • เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศจีนและเวียดนาม
  • จัดอยู่ในวงศ์ Asteraceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับผักสลัดต่างๆ  และดอกเดซี่

ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์ของจิงจูฉ่าย

ลำต้น

จิงจูฉ่ายมีลำต้นเป็นไม้ล้มลุก หรือ ไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ลำต้นมีสีม่วงแดงเรื่อ และแตกกิ่งก้านสาขาออกไปรอบๆ

ใบ

ใบของจิงจูฉ่ายเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันไปตามลำต้น ใบมีรูปร่างเป็นรูปรีกว้าง ขอบใบหยักเว้าเป็นพูคล้ายใบประกอบแบบขนนก ขอบใบหยักเว้าไม่สม่ำเสมอ ก้านใบสีม่วงแดง และมีขนปกคลุมเล็กน้อย มีกลิ่นฉุน

ดอก

ดอกของจิงจูฉ่ายออกเป็นช่อแตกแขนงที่ปลายยอด หรือตามง่ามใบ ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ผล

ผลของจิงจูฉ่ายเป็นผลแห้ง มีขนาดเล็กมาก และมีเมล็ดอยู่ภายใน

shop now

การปลูกและการดูแลของต้นจิงจูฉ่าย

อุณหภูมิที่เหมาะสมในการปลูกจิงจูฉ่าย
อุณหภูมิที่เหมาะสม

อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการปลูกคือ 20-30°C แต่ก็เป็นพืชที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี

การรดน้ำที่เหมาะสมในการปลูกจิงจูฉ่าย
การรดน้ำ

ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าให้ดินแฉะ ควรรักษาความชื้นในดินให้ดี โดยเฉพาะในช่วงแรกของการปลูก

แสงแดดรำไรเหมาะสมในการปลูกจิงจูฉ่าย
แสงแดด

จิงจูฉ่ายชอบแสงแดดรำไร ควรปลูกในที่ที่ไม่โดนแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน

ฤดูฝนเหมาะสมในการปลูกจิงจูฉ่าย
ฤดูที่เหมาะสมในการปลูก

ควรปลูกในฤดูฝนหรือฤดูที่มีความชื้นสูง เช่น ช่วงปลายฝนถึงต้นหนาว (สิงหาคม-ตุลาคม)

การบำรุง

สามารถใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในการบำรุงดิน การเสริมธาตุอาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้ใบดก

ระยะเวลาเก็บเกี่ยว

จิงจูฉ่ายสามารถเก็บเกี่ยวได้หลังจากปลูกประมาณ 60-90 วัน โดยใช้ใบสดในการทำอาหารหรือแปรรูปเพื่อการรักษา

โรคและแมลงศัตรูพืชของต้นจิงจูฉ่ายที่พบบ่อย

  • โรคราน้ำค้าง ,โรคโคนเน่า 

วิธีแก้ไขและป้องกัน: ใช้สารชีวภัณฑ์จากเชื้อรา Trichoderma ป้องกันโรครากเน่าและโคนเน่า

  • แมลง: เพลี้ยอ่อน, ไรแดง

วิธีแก้ไขและป้องกัน: ใช้น้ำหมักสะเดาหรือสารสกัดจากพืชที่มีฤทธิ์ไล่แมลง เช่น ตะไคร้หอม หรือข่า ในการควบคุมเพลี้ยและแมลงศัตรูพืช

วิธีการขยายพันธุ์จิงจูฉ่าย

การปักชำรากจิงจูฉ่าย

จิงจูฉ่ายเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่าย โดยวิธีที่นิยมที่สุดคือ การปักชำกิ่ง

  • เลือกกิ่งพันธุ์: เลือกกิ่งที่สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีโรคแมลง และมีความยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
  • ตัดกิ่ง: ใช้มีดคม ๆ ตัดกิ่งให้เฉียง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับน้ำ และแช่ในน้ำยาเร่งรากซัก 30 นาที ก่อนนำไปปลูก
  • เตรียมดิน: เตรียมดินปลูกที่ร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
  • ปักชำ: ปักชำกิ่งลงในดินที่เตรียมไว้ ลึกประมาณครึ่งหนึ่งของกิ่ง
  • ดูแลรักษา: รดน้ำให้ชุ่มชื้นสม่ำเสมอ และวางไว้ในที่ที่มีแสงรำไร

สารอาหารสำคัญของต้นจิงจูฉ่าย

  • สารต้านอนุมูลอิสระ: จิงจูฉ่ายอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวโน และวิตามินซี ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดเซลล์มะเร็งและความเสื่อมของเซลล์
  • ใยอาหาร: ใยอาหารในจิงจูฉ่ายช่วยในการขับถ่าย ทำให้ลำไส้สะอาด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • วิตามินและแร่ธาตุ: จิงจูฉ่ายมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี เหล็ก และแคลเซียม ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคโลหิตจาง และบำรุงกระดูก
  • สารประกอบฟีนอล: สารประกอบฟีนอลในจิงจูฉ่ายมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ รวมถึงโรคมะเร็ง

สรรพคุณของจิงจูฉ่ายและวิธีใช้

จิงจูฉ่ายเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการบำรุงร่างกายและรักษาโรคต่างๆ มาดูกันว่าจิงจูฉ่ายมีสรรพคุณอะไรบ้าง และสามารถนำไปใช้รักษาโรคอะไรได้

สรรพคุณของจิงจูฉ่าย

  • บำรุงเลือด: ช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดง ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
  • ขับลม: ช่วยแก้ปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด
  • ลดไข้: ช่วยลดไข้จากการติดเชื้อ
  • แก้ไอ: ช่วยบรรเทาอาการไอและเจ็บคอ
  • บำรุงปอด: ช่วยให้ปอดแข็งแรง ทำให้หายใจสะดวกขึ้น
  • ลดอาการอักเสบ: ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย
  • ต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และป้องกันโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง
  • บำรุงผิวพรรณ: ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง

จิงจูฉ่ายช่วยแก้โรคอะไรบ้าง

  • โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร: ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
  • โรคหวัด: ช่วยลดไข้ แก้ไอ เจ็บคอ
  • โรคผิวหนัง: ช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง
  • โรคเลือด: ช่วยบำรุงเลือด
  • โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ: ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด

วิธีใช้จิงจูฉ่าย

  • ต้มดื่ม หรือทำเป็นชา: นำใบจิงจูฉ่ายมาต้มกับน้ำดื่ม ช่วยแก้ปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยบำรุงสุขภาพได้
  • ทำอาหาร: นำใบจิงจูฉ่ายมาประกอบอาหาร เช่น ต้มจืด ต้มยำ

เมนูอาหารของจิงจูฉ่าย

ต้มเลือดหมูใส่จิงจูฉ่าย

วัตถุดิบ:

  • หมูสับ 200 กรัม
  • เลือดหมู 150 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
  • จิงจูฉ่าย 100 กรัม (ล้างสะอาดและหั่นเป็นท่อน)
  • น้ำซุปกระดูกหมู 4 ถ้วย
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • พริกไทยป่นตามชอบ
  • น้ำมันพืชสำหรับผัด

วิธีทำ:

  • ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชและกระเทียมสับลงไป ผัดจนหอม
  • ใส่หมูสับลงไปผัดจนสุก
  • เติมน้ำซุปกระดูกหมูลงในหม้อ รอจนน้ำเดือด
  • ใส่เลือดหมูลงไป ต้มจนเลือดหมูสุก
  • ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และเกลือ
  • ใส่จิงจูฉ่ายลงไป ต้มเพียงไม่กี่นาทีจนใบจิงจูฉ่ายสุก ปิดไฟ
  • ตักเสิร์ฟใส่ชาม โรยพริกไทยป่นตามชอบ

จิงจูฉ่ายน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ

วัตถุดิบ:

  • จิงจูฉ่าย 50 กรัม (ล้างสะอาดและหั่นเป็นท่อน)
  • แอปเปิ้ลเขียว 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
  • น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ (ตามชอบ)
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำสะอาด 1 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ใส่จิงจูฉ่ายและแอปเปิ้ลเขียวลงในเครื่องปั่น
  2. เติมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว และน้ำสะอาด
  3. ปั่นจนส่วนผสมละเอียดและเข้ากันดี
  4. กรองน้ำปั่นด้วยกระชอนหรือดื่มได้เลย
  5. เสิร์ฟทันที เพื่อคงคุณค่าสารอาหาร
Anndagarden ฝากกด like เพจด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดบทความดีๆจากเรา

สินค้าที่น่าสนใจ

บทความที่น่าสนใจ

บทความอื่นๆเพิ่มเติม▶️

ปลูกแวววิเชียรให้ออกดอกทั้งปี

การบำรุงแวววิเช...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

เทคนิคการปลูกแววมยุราอย่างมืออาชีพ

เคล็ดลับการปลูก...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

จิงจูฉ่ายมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

ผักใบเขียวปลูกง...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

ปลูกช็อกโกแลตมิ้นต์ กลิ่นเย้ายวนหอมเย็น

ปลูกช็อกโกแลตมิ...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

มาร์จอแรมสมุนไพรรสละมุน

มาร์จอแรมเป็นสม...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

ทำไมผักแพงในฤดูฝน?

ควรเลือกทานและป...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️

ผักร็อกเก็ตปลูกได้ทุกฤดู

ผักร็อกเก็ตดูเห...อ่านเพิ่ม▶️▶️▶️